ทินเนอร์เลือด ทำไมต้องใช้ทินเนอร์เลือดในการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง
ทินเนอร์เลือด เป็นยาที่ใช้ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง มีสาร […]
ทินเนอร์เลือด เป็นยาที่ใช้ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง มีสาร […]
ต้อนรับท่าน ผอ.จิตตานันท์ สุขสวัสดิ์ และคณะครูโรงเรียนว […]
ต้อนรับคณะศึกษาดูงาน นำโดยท่าน ผอ.เกศรา จันทวัง และคณะค […]
มอบทุนการศึกษา โรงเรียนประชาพัฒนาวิทย์ นำนักเรียนที่ได้ […]
ฝึกอาชีพ ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้…ฝึกอาชีพ..มะขาม […]
โรงเรียนประชาพัฒนาวิทย์ เริ่มก่อตั้งขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2524 ในพื้นที่จำนวน 9 ไร่ 75 ตารางวา โดยชาวบ้านห้วยเสือและหมู่บ้านใกล้เคียงได้ร่วมกันจัดสร้างอาคารชั่วคราว โดยการมุงด้วยหญ้าคาเพื่อให้บุตรหลานได้ใช้เป็นสถานศึกษาชั่วคราว เนื่องจากโรงเรียนที่ไปศึกษาเดิมอยู่ห่างไกลและการเดินทางยากลำบากในฤดูฝน
ในช่วงเริ่มแรกใช้ชื่อว่า โรงเรียนบ้านห้วยเสือ เปิดทำการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีนักเรียน 25 คน ครู 1 คน และทางราชการให้เป็นสาขาของโรงเรียนบ้านบึง
ปี พ.ศ. 2525 ผบ.พตท.11 พลตรีสถิตย์ พงษ์ไสว ร่วมกับราษฎรบ้านห้วยเสือ และชาวบ้านใกล้เคียงได้ร่วมกันจัดหาทรัพย์ วัสดุก่อสร้างและแรงงาน ร่วมกันสร้างอาคารเรียนแบบ ป.1 ก ขนาด 4 ห้องเรียน บ้านพักครู 1 หลัง ส้วม 1 หลัง
ปี พ.ศ. 2528 พระครูพิทักษ์นนทเขตต์ เจ้าคณะอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับสำนักสงฆ์ห้วยเสือ และชาวบ้านช่วยกันจัดหาทรัพย์ วัสดุ แรงงาน ต่อเติมอาคารเรียน แบบ ป. 1 ก จากเดิม 4 ห้องเรียน เพิ่มอีก 3 ห้องเรียน จึงรวมเป็นอาคารแบบ ป. 1 ก1 หลัง 7ห้องเรียน
ปี พ.ศ. 2531 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ แบบ สปช. 202/26 จำนวน 1 หลัง ราคา 235,000 บาท ถังน้ำซีเมนต์ แบบ ฝ. 30 พิเศษ จำนวน 1 ชุด ราคา 45,000 บาท
ปี พ.ศ. 2532 ได้รับงบประมาณก่อสร้างถังซีเมนต์ แบบ ฝ. 30 พิเศษ จำนวน 1 ชุด ราคา 50,000 บาท
ปี พ.ศ. 2535 ได้รับงบประมาณติดตั้งไฟฟ้าภายนอก – ภายใน จำนวนเงิน 33,100 บาท ชาวบ้านห้วยเสือและใกล้เคียงร่วมบริจาคทรัพย์สร้างโรงอาหาร จำนวน 1 หลัง
ปี พ.ศ. 2541 ชาวบ้านห้วยเสือและใกล้เคียงร่วมบริจาคทรัพย์ จัดทำสนามฟุตบอล 1 สนาม และสนามวอลเล่ย์บอล 1 สนาม ศาลาพักผ่อน 1 หลัง และได้รับงบประมาณสร้างส้วม แบบ สปช. 601/26 งบประมาณ 55,500 บาท ได้รับงบประมาณจากกรมโยธาสร้างถังเก็บน้ำฝน จำนวน 1 ถัง
ปี พ.ศ. 2545 มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับชาวบ้านห้วยเสือและใกล้เคียงร่วมบริจาคทรัพย์ สร้างอาคารห้องสมุด จำนวน 1 หลัง
ปัจจุบัน เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 8 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน ชาย 45 คน หญิง 31 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 76 คน มีข้าราชการครู จำนวน 6 คน
โดยปัจจุบันได้มี นายโสวัฒน์ เหลาธรรม เป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา
วิสัยทัศน์
มุ่งมั่นจัดการศึกษาให้ได้มาตรฐาน บนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง เคียงคู่คุณธรรม จริยธรรม และความเป็นไทย
ปรัชญา
สุโขปญฺญา ปฎิลาโภ การได้ปัญญานำมาซึ่งความสุข
พันธกิจ
1. ส่งเสริมพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม นำความรู้สู่ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง
2. จัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีปัญญา สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
3. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่ดี และรักการออกกำลังกาย
4. ส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทยและสิ่งแวดล้อ
เป้าประสงค์
นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาชาติ มีคุณธรรมจริยธรรม และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
นานาสาระ
เรื่อง หา Hero ในตัวคุณให้เจอ
ใครที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปี ขึ้นไป คงเคยฟังบทเพลงให้กำลังใจคนที่ล้มเหลว หรือพลาดพลั้งในชีวิตที่ชื่อว่า “นักล้ม” ของ ศิลปิน ภุชงค์ โยธาพิทักษ์ ที่มีเนื้อหาของบทเพลงกินใจ และย้ำเตือนสัจธรรมของการสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายจิตใจของตัวเราเอง ว่าไม่ว่าเราจะพลาดพลั้ง ผิดพลาดในชีวิตบ่อยสักแค่ไหน ขอเพียงเรามีกำลังใจที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ชีวิตไม่เคยหมดหวัง และโลกก็ยังมีเส้นทางโรยกลีบกุหลาบรอเราที่ปลายทางอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะมุ่งมั่นมากพอที่จะเดินไปถึงเส้นทางนั้นหรือไม่ ? ( ถ้าอยากจะรู้ว่าบทเพลงนี้ให้กำลังใจอย่างไร ? ทำไมถึงได้รับความนิยมในสมัยนั้น ลองเปิด ยูทูป เพลง “นักล้ม” ของภุชงค์ โยธาพิทักษ์ ฟังดูนะคะ)
คนเรา หากได้ออกเดินทางไปในเส้นทางชีวิตแล้ว การสะดุดล้มไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนที่ไม่เคยหกล้ม หรือทำผิดพลาดในชีวิตคือคนที่ไม่เคย ออกเดินทางไปทำอะไรเลย คือคนที่มีชีวิตแต่ไม่รู้จักใช้ชีวิต คนที่ไม่มีความกล้าหาญพอที่จะลงมือทำอะไร คนกลุ่มนี้จึงไม่มีประโยชน์ที่มีความฝันที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ เพราะทุกความสำเร็จต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆอย่าง ในโลกปัจจุบันนี้ แค่คุณหยุดอยู่เฉยๆ ก็เท่ากับคุณได้เดินถอยหลังไปเสียแล้ว
มีคำกล่าวว่าของบุคลมากมายที่ประสบความสำเร็จในชีวิตว่า ในโลกของการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ในโลกที่มีความรู้ให้คุณได้ค้นหาได้ด้วยเพียงปลายนิ้วสัมผัส ในทุกๆวินาทีของชีวิต อัจฉริยะสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆ 3 เดือน เพียงคุณตั้งใจศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นๆ ที่คุณสนใจต่อเนื่องกันตลอดระยะเวลา 2 – 3 เดือนคุณก็สามารถเป็นอัจฉริยะในเรื่องนั้นๆได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะผิดพลาดอะไรมา คุณก็สามารถเริ่มต้นที่จะศึกษา มุ่งมั่นและลงมือทำได้ใหม่เสมอ ดังคำที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กว่า “ไม่มีใครแก่เกินเรียน” ซึ่งสอดคล้องคำคมของ Henry L. Doherty ปราชญ์แห่งการลงทุนของโลกที่กล่าวไว้ว่า
“จงทำตัวเป็นนักเรียนตราบเท่าที่ยังมีสิ่งให้ต้องเรียนรู้ ซึ่งนั่นหมายถึงทั้งชีวิตของคุณ” เมื่อเช้ามืดฉันได้รับข้อความทางไลน์จากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่อยู่ห่างไกล ในหัวข้อที่ว่า 10 ประโยคที่ “คนมีความสุข” เขาชอบพูดกัน ฉันรู้สึกประทับใจ และเห็นว่ามีประโยชน์มาก จึงขออนุญาตคัดลอกมาแบ่งปัน เพื่อสร้างบานประตูแห่งความสุขให้กับทุกคนที่มีโอกาสได้มาอ่าน บทความนี้ ( ขอบคุณเจ้าของบทความต้นฉบับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ และชี้ประตูแห่งความสุขให้กับเพื่อนมนุษย์ผ่านตัวอักษรแล้ว )